พัฒนาชีวิต พัฒนาจิต และ สมอง ด้วยการใช้การ Coach วิถีพุทธ เพื่อนำศักยภาพตนเองมาใช้ 

เรื่องที่ 10 : มีความจริงที่สุดคือ ไม่มีความจริง
06 ม.ค. 2558

ความเคยชินหรือความรู้เก่าๆของเรา มักบอกเราเสมอว่า ให้เราเป็นคนมุ่งมั่นทุ่มเท และทำอะไรให้จริงจัง แล้วจะประสบความสำเร็จ มันจึงกลายเป็นนิสัยนั้นมาตั้งแต่เล็กๆ อาจจะเห็นตัวอย่างจากแม่ ที่เห็นเขาทำงานไม่เคยหยุด นอกจากตรุษจีน (โดนบังคับโดยบรรพบุรุษ) เราจึงเห็นคนจีนไม่ค่อยจนเท่าไหร่ เพราะมีแต่เวลาหาเงิน ไม่มีเวลาใช้เงิน 555


เราอาจจะใช้โปรแกรมสมองที่ฝรั่งเรียกว่า NLP ในการดำเนินชีวิต และหลายๆคนก็คงใช้วิธีนี้ในการดำเนินชีวิตมาแต่ไม่เคยรู้ว่ามันเรียกว่า NLP เราโปรแกรมการกระทำของเราบนความเชื่อที่ว่า มุ่งมั่น ทุ่มเท ก้าวข้ามอุปสรรคไปให้ได้ด้วยความอดทน ทำอย่างมีแผนการ และเป้าหมายที่ชัดเจนก็จะประสบความสำเร็จ และมันก็สำเร็จจริงๆนะ แต่บนความสำเร็จนั่นเราอาจต้องแลกกับการกระทบกระทั่งกันทางวาจาและการกระทำกับผู้อื่น ความรู้สึกต่างๆเกิดขึ้น เพราะความจริงที่ไม่ตรงกัน บางอย่างเป็นเรื่องที่เพียง แค่คำพูดว่า   อยากได้ อยากทำ อีกฝ่ายอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องจริง ก็ทำอย่างทุ่มเท อุปสรรคแค่ไหนก็จะต้องไปทำให้สำเร็จ   แต่อีกฝ่ายกลับรู้สึกว่าเป็นเพียงเรื่องๆหนึ่งที่อยากทำ ไม่ได้จริงจังที่จะต้องทำให้บรรลุในทันที

มันเป็นเรื่องยากที่จะวินิจฉัยว่าอะไรคือเรื่องจริง เพราะนี่ก็เป็นเรื่องจริง ที่ไม่จริงจัง แต่อีกคนคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ต้องทำแล้ว บางทีมันก็รู้สึกเอ๋อเลยว่า เราเองนั่นแหละไปหลงคิดกับเรื่องเหล่านี้กับเรื่องของคนอื่นๆเอง จะว่าหวังดี ก็อาจจะใช่มั่ง หรืออาจจะไม่ใช่ความหวังดี แต่เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำเพื่อตอบเป้าหมาย...อะไรบางอย่าง ตามความเคยชินของเราเอง



เมื่อเราเจอสถานการณ์แบบนี้ สมัยก่อนเราก็จะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร และเราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร ต่อไปกับเหตุการณ์นี้ เพราะมันเหมือนกับว่าเราก็ไม่ต้องการเป็นอะไรบางอย่าง (บ้าไปเอง) กลับไปนึกถึงคำพระสอนว่า โลกมันเป็นของมันอย่างนั่นแหละ อยู่กับโลกก็เล่นกับโลกให้เป็น เห็นแล้ว รู้แล้วก็ให้มันผ่านไป อย่าเอามาคิดซ้ำ มาเพ่งจ้อง อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไร มันก็เป็นเพียงจิตนาการของเราอีกอย่างหนึ่ง เราเพียงรับรู้ว่ามันก็เป็นอีกเรื่องที่เราจะว่าเข้าใจผิดก็ไม่ใช่ เพียงแต่ความคาดหวังของคน 2คน ไม่เหมือนกัน-ไม่เท่ากัน มันก็แค่นั้นเอง ก็กลับมาที่เรื่องฝึกสติอีกครั้ง มันก็คลายความสับสนลงได้

สติ คือ ความระลึกได้ ต้องเห็นสภาวะบ่อยๆจนจิตเข้าใจความจริง ยอมรับความจริงว่าทุกสิ่ง มีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับ บังคับไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เป็นไปตามใจอยาก เป็นครั้งแรกจะรู้สึกจิตใจมันเวิ้งว้าง โหวงเหวง หาที่ยึดที่เกาะไม่ได้ ( เพราะคิดว่ามันจริง ) และบางทีก็รู้สึกเศร้าเพราะเหมือน “ เรา ” อยู่ตรงไหนของโลกใบนี้นะ (ตัวเราไม่มี) เราฟังประโยคนี้มานานแล้วเหมือนๆ เคยสัมผัสมันบ้างแล้ว ยอมรับแล้ว แต่เหมือนกับพอมาเจอเรื่องใหม่ สถานการณ์ใหม่ เราก็ยังไม่ไวพอที่จะยอมรับและวางมันให้เร็ว...ดังนั้นจึงยังต้องฝึกต่อไป เพื่อวันนึงเราจะละความคิดว่าเป็นตัวตนของเราได้จริงๆ



     

     

 
Untitled Document
Stay In Touch Service Contact Web Link
   Email
  
   ชื่อ-นามสกุล
  

  

   - Inhouse Group Coaching & Training
   - Followup Training
   - SME Consulting
   - Online Service


- Coach Air.net
- Call   : 086-896-9200
- Email : wnuttha@gmail.com
- Address : Ramkamhaeng Bangkapi Bangkok


  • http://www.entraining.net
  • http://www.coachatwork.in.th
  • http://www.pakornblog.com
    Link น่าสนใจ :
    # คำนวนการออม เพื่อการเกษียณ
  • TSI Financial Tools
  • Retirement Calculator
  • Home  |  About  |  Service  |  Portfolio  |  Download  |  Contact Aptitude Test