พัฒนาชีวิต พัฒนาจิต และ สมอง ด้วยการใช้การ Coach วิถีพุทธ เพื่อนำศักยภาพตนเองมาใช้ 

เรื่องที่ 4 : เสน่ห์ของการโค้ชงาน
09 พ.ย. 2556

เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสนั่งฟัง Coach Pakorn โค้ชสดผู้บริหารท่านหนึ่ง เป็นช่วงที่ผู้บริหารท่านนี้กำลังฝึกการเป็นโค้ช และได้ใช้การโค้ชในการพัฒนาลูกน้องในการทำงาน เขาเล่าว่า เดี๋ยวนี้ทำงานกับลูกน้องแล้วมีความสุขมาก และดูลูกน้องก็มีความสุขมากขึ้น ชีวิตก็รู้สึกเบาๆ และดูเหมือนสามารถควบคุมสถานการณ์ หรือดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อน Coach Pakorn ก็บอกว่า เป็นเพราะเรามั่นใจมากขึ้น และช่วยให้น้องๆ มีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้น เพราะเราไม่ได้ไปแทรกแซงใส่ความคิดของเราเข้าไปให้เขาและบังคับให้เขาทำตามความคิดเรา


ในการดำเนินการสนทนานั้น ก็มีหัวข้อที่ผู้บริหาร (สมมติ ผู้บริหาร ชื่อคุณ AF) ได้ตั้งคำถามขึ้นว่า 

คุณ AF  : "แต่ก็ไม่รู้หัวหน้า(ของผู้บริหาร) เขาจะคิดอย่างไร เพราะเดี๋ยวนี้เราจะไม่ได้เป็น Mr.ครับผม เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราจะกลายเป็นคน Aggressive หรือไม่ ". 

Coach Pakorn  ว่าตอนนี้เราไม่ได้เป็นเหยื่อ หัวหน้าเขาก็ขาดความมั่นใจไป เขาก็ไปหาเหยื่อรายใหม่ 

แล้วคุณ AF  ได้พูดคุย และเล่าสถานการณ์ ที่กำลังครุ่นคิดอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมา

คุณ AF :   " เวลาเขาสั่งงาน/มอบหมายงาน เรื่องเป้าหมายยอดขาย เขาไม่ CC เราแล้ว เลยไม่รู้ว่าเขาคิด   อย่างไร แต่ก็ไม่ได้กลัวหรือกังวลว่าเขาจะย้ายเราไปไหนหรือไม่ เหมือนเมื่อก่อน เขามอบหมายเป้าให้เราเยอะกว่าอีก Port หนึ่ง.. แต่เราก็คุยกับเขาด้วยเหตุและผล " . 

Coach Pakorn : "อันนี้จะให้โค้ชหรือขอคำปรึกษา"

คุณ AF  "ขอคำปรึกษา"

Coach Pakorn : "Ok ถ้าในมุมมองของผู้บริหาร คุณ AF ไม่สามารถเถียงหัวหน้าได้ เพราะหัวหน้าเราก็รับเป้ามาจากผู้บริหารระดับสูงอีกทอดหนึ่ง หากเขาส่งเป้าไม่ได้ เขาก็ต้องรับผิดชอบ เขาก็ต้องหาวิธีใหม่ที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมาย ผู้บริหารทุกคนที่เติบโตมา เขาต้องมีผลงานที่ Above Average อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ได้แค่ Average หรือ below Average"

คุณ AF  "อืม ได้มุมมองใหม่"

แล้วการสนทนาก็เข้าสู่กระบวนการโค้ชผู้บริหารท่านนั้น ผลคือคุณ AF ได้ Idea ที่จะกลับไปทำอะไรใหม่เพิ่มเติม

ประเด็นที่อยากจะเล่าคือ เสน่ห์ของการโค้ชงาน ไม่ใช่อยู่ที่การแก้ปัญหาเชิงพฤติกรรมได้ แต่ผลของการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่การคิด เพราะทักษะการโค้ชในเรื่องของการฟังอย่างตั้งใจ คือการฟังว่าเขาพูดอะไร ไม่ใช่ฟังว่าเขาพูดอะไรกับเรา จึงทำให้ข้อมูลที่ฟังนั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่ให้เราพิจารณา ไม่ใช่บอกว่า “เรา” เป็นอะไร การสนทนาต่างๆ ก็จะเป็นไปด้วยความเปิดใจ และนี่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างของโค้ชปกรณ์ที่พลิกมุมไปมาระหว่างเทคนิคโค้ช กับ การให้คำปรึกษา ทำให้สุดท้าย โค้ชชี่ก็ได้อะไรกลับไปแบบไม่ใช่แค่เรื่องทัศนคติเชิง+ แต่มันมี Motivation ในตัว  นอกจากนี้ โค้ชเองจะต้องมีสติ และสมาธิสูงมากในการที่จะถาม และ Feedback ประเด็นต่างๆจน Coachee เกิดความกระจ่างในตัวเอง และถ้าจะให้ดีต้องสามารถสร้างแรงจูงใจให้แก่ Coachee ได้ด้วย เพราะเราอาจจะเห็นคนเปลี่ยนแปลงแค่คำพูด แต่ไม่เกิดการกระทำ หรือลงมือทำจริงๆ

อีกอย่างที่เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับตัวเอง คือ ข้อสงสัยที่ว่าที่ให้ลูกน้องทำงานทำไมลูกน้องชอบคิดว่าหัวหน้า “หลอกใช้” เลยถาม Coach Pakorn ไป ได้คำตอบว่านี่เป็นคำถาม-คำตอบที่พบส่วนใหญ่ใน class ที่ก็มีพนักงานบางคนที่รู้สึกแบบนั้น   “ ก็ทำไมใช้แต่เขาล่ะ ทำไมไม่ไปใช้คนอื่นบ้างล่ะ ”  อืม...ก็คิดได้นะ แต่นี่แปลว่า หลอกใช้หรอ ? หลอกใช้น่าจะหมายถึงว่า ให้เขาทำงานฟรีหรือให้ทำงานแล้วเอาผลงานมาเป็นของตัวเองไม่ใช่หรอ... หรือเราเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ช่างเถอะจะแปลอะไรก็ช่าง แต่การให้ลูกน้องทำงานเยอะๆ ก็อาจทำให้ลูกน้องรู้สึกไม่ดีกับหัวหน้า... .... แล้วหัวหน้าต้องทำไงล่ะ ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกคน แบ่งงานให้เท่าๆ กันอย่างนั้นหรอ!!! ... เรื่องคนนี่ช่างละเอียดอ่อนเสียจริง




     

     

 
Untitled Document
Stay In Touch Service Contact Web Link
   Email
  
   ชื่อ-นามสกุล
  

  

   - Inhouse Group Coaching & Training
   - Followup Training
   - SME Consulting
   - Online Service


- Coach Air.net
- Call   : 086-896-9200
- Email : wnuttha@gmail.com
- Address : Ramkamhaeng Bangkapi Bangkok


  • http://www.entraining.net
  • http://www.coachatwork.in.th
  • http://www.pakornblog.com
    Link น่าสนใจ :
    # คำนวนการออม เพื่อการเกษียณ
  • TSI Financial Tools
  • Retirement Calculator
  • Home  |  About  |  Service  |  Portfolio  |  Download  |  Contact Aptitude Test